4 วิธีการวางแผนการกู้ซื้อบ้าน

การกู้ซื้อบ้าน

การได้กลับมาพักผ่อนที่บ้านของเราเองหลังจากเลิกงานและผ่านสิ่งต่างๆ มากมายในแต่ละวันนั้น เพียงแค่เราก้าวท้าวเข้าห้อง ก็เหมือนจะปลดเปลื้องสิ่งที่หนักอึ้งเอาไว้หน้าประตูกันใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งก็ไม่แปลกตรงไหนเลยครับ เพราะบ้านคือทื่ที่ทำให้เรามีความสุขและได้พักผ่อนนั้นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับ “4 วิธีการวางแผนการกู้ซื้อบ้าน” สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านของตนเองกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับผม

สินเชื่อเป็นอย่างไร?

“สินเชื่อ” คือ การกู้ยืมเงินสดโดยมีธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นผู้ออกเงินกู้ให้ ผู้ขอสินเชื่อสามารถนำเงินกู้ไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ตามที่ผู้ขอสินเชื่อต้องการ หรือเป็นไปตามเงื่อนไขของสินเชื่อนั้นๆ โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ในระหว่างที่ผ่อนคืน

ส่วนการกู้ยืมเงินและสัญญาอย่างหนึ่งซึ่งเกิดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “ผู้กู้” มีความต้องการจะใช้เงินแต่ตนเองมีเงินไม่พอหรือมีเงินไปขอกู้ยืมจากบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้ให้กู้” และผู้กู้ตกลงจะใช้คืนภายในกำหนดเวลาใดเวลาหนึ่งการกู้ยืมจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีการส่งมอบเงินที่ยืมให้แก่ผู้ที่ยืมในการกู้ยืมนี้ ผู้ให้กู้จะคิดดอกเบี้ยหรือไม่ก็ได้

4 แนวทางการกู้ซื้อบ้าน

เก็บเงินซื้อบ้านก้อนแรกสำหรับดาวน์บ้าน 20%

ในการวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังหรือคอนโดสักห้องนั้น ส่วนใหญ่จะซื้อแบบเงินผ่อน แต่ก่อนจะซื้อเราต้องไม่ลืมเก็บเงินซื้อบ้านก้อนแรกสำหรับเงินดาวน์ นอกจากนั้น ยังมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่านายหน้า ค่าจดจำนอง เป็นต้น การวางแผนเก็บเงินซื้อบ้าน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เมื่อประเมินคร่าว ๆ ควรมีอย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน เพื่อให้ครอบคลุมและเพียงพอนั้นเองครับ

เลือกสินเชื่อบ้านที่ดีและเหมาะกับตัวเองที่สุด

อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับคนที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน คือสินเชื่อบ้าน หลายคนมักเลือกกู้สินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด พิจารณาได้จากอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องดูในภาพรวมด้วยว่าเหมาะสมกับระยะเวลาผ่อนชำระหรือไม่ ไม่ใช่ดูแค่ว่าดอกเบี้ยในปีแรกต่ำเท่านั้น โดยแบ่งเป็นประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ หมายถึงดอกเบี้ยที่ต้องชำระในช่วง 1-5 ปีแรกจะยังคงที่ และค่อยปรับเป็นแบบลอยตัวตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด อีกประเภทหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยที่ลอยตัว หมายถึงจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระคงที่ในช่วงแรกเท่านั้น จากนั้นจะปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดเงิน สถาบันการเงิน ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่าแต่ละปีจะปรับเท่าไร ซึ่งบางปีอาจปรับขึ้นสูง และอย่าลืมว่าอัตราดอกเบี้ยบ้านของบ้านใหม่กับบ้านมือสองก็ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ ต้องดูค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ จดจำนอง ไถ่ถอนจำนอง ค่าประเมินมูลค่าประกัน ฯลฯ

ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง

ไม่ใช่แค่มีเงินดาวน์ครบแล้วจะใช้จ่ายอย่างไรก็ได้ ต้องไม่ลืมว่ายังมีค่าผ่อนรายเดือน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ไหนจะค่าประกัน ค่านิติบุคคล ค่าส่วนกลาง หรือตกแต่งบ้านตามสไตล์ที่ชอบอีก ซึ่งกว่าจะหมดต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 10 ปีแน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องระวังเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น ชอปปิงอย่างมีสติ ไม่สร้างภาระให้ตัวเองต้องลำบากในภายหลัง

หาแนวทางเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

เพราะบ้านหรือคอนโดเป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูงและใช้เวลาผ่อนชำระเป็นเวลานาน แต่จะวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านหรือคอนโดอย่างไรให้ถูกและดี? สำหรับการวางแผนซื้อบ้าน หนึ่งในนั้นคือการมองหาโปรโมชันที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุดนั้นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “4 วิธีการวางแผนการกู้ซื้อบ้าน” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์และแนวทางที่ดีสำหรับท่านที่กำลังจัดทำแผนกู้ซื้อบ้าน

Patsy Holt

Patsy Holt